"อียู"จี้ตรวจเรือประมง3,535ลำ คนดังติดร่างแห ล็อกห้ามใช้งาน

 

แหล่งข่าวจากกรมประมง เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ประชุมติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU Fishing) ตามข้อเสนอแนะของสหภาพยุโรป (EU) จากที่ผ่านมาการแก้ไขปัญหาคืบหน้าไปมาก และ EU พอใจการดำเนินการของฝ่ายไทย ครั้งนี้ได้ขอความร่วมมือจากกระทรวงมหาดไทย ให้สำรวจสถานะเรือประมงที่ถูกเพิกถอนทะเบียนเรือ เรือที่แจ้งงดการใช้ และเรือที่ไม่มีใบอนุญาตทำประมงใน 54 จังหวัดทั่วประเทศ ยกเว้นกรุงเทพมหานคร 

จากการหารือร่วมกันได้ข้อสรุปว่า กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้ 54 จังหวัดสำรวจตรวจสอบเรือ 3,535 ลำ ตั้งแต่ 18-25 พ.ค. 2560 จากนั้นจะแจ้งผลการสำรวจสถานะเรือให้กรมประมงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

ตั้งทีมลุยสำรวจ 18-25 พ.ค.นี้

ล่าสุดกระทรวงมหาดไทยแจ้งว่า ได้ทำหนังสือสั่งการถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 54 จังหวัดแล้ว โดยให้แต่งตั้งคณะทำงานทำการสำรวจและตรวจสอบสถานะความมีอยู่จริงของเรือประมง ที่ถูกเพิกถอนทะเบียนเรือที่แจ้งงดการใช้เรือ และเรือที่ไม่มีใบอนุญาตทำการประมงโดยเร่งด่วน โดยให้ปลัดอำเภอผู้ประสานงานประจำตำบลเป็นหัวหน้าคณะทำงาน ส่วนคณะทำงานประกอบด้วย กำนัน และผู้ใหญ่บ้านในท้องที่ที่มีเรือประมงที่อยู่ในข่ายต้องสำรวจ เจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ประมงอำเภอ

 

หากพื้นที่ใดมีเรือประมงอยู่ในบัญชีที่ต้องสำรวจตั้งแต่ 50 ลำขึ้นไป จะแต่งตั้งปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในพื้นที่แต่ละตำบล เป็นหัวหน้าคณะทำงานเพิ่มเติม พร้อมประสานผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาที่รับผิดชอบในพื้นที่ ส่งเจ้าหน้าที่ชุดตรวจเรือเป็นคณะทำงานด้วย โดยจะสำรวจต่อเนื่องระหว่างวันที่ 18-25 พ.ค.นี้ ไม่เว้นวันหยุดราชการ

 

เปิดรายชื่อ 54 จังหวัดเป้าหมาย

สำหรับพื้นที่ 54 จังหวัดเป้าหมายในการสำรวจติดตามสถานะ ประกอบด้วยกระบี่ กาญจนบุรี กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร ขอนแก่น จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง นครนายก นครปฐม นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นนทบุรี นราธิวาส น่าน บึงกาฬ บุรีรัมย์ ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา

 

พะเยา พังงา พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ภูเก็ต ยะลา ร้อยเอ็ด ระนอง ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สงขลา สตูล สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี สิงห์บุรี สุราษฎร์ธานี หนองคาย อ่างทอง อุดรธานี อุทัยธานี ตามกฎหมายเรือเหล่านี้บางส่วนเป็นซากเรือ บางส่วนต้องจอดลอยลำไม่สามารถนำมาใช้ทำการประมงได้ เนื่องจากถูกเพิกถอนทะเบียนเรือ แจ้งงดใช้ และไม่มีใบอนุญาตทำการประมง

 

พบเรือพร้อมใช้งานสั่งล็อกตาย

ในการสำรวจหากคณะทำงานพบว่า เรือที่อยู่ในข่ายต้องสำรวจสถานะทั้ง 3,535 ลำ จอดอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน คณะทำงานจะประสานกับผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค ดำเนินการทางกฎหมายโดยล็อกเรือไม่ให้สามารถนำมาใช้งานได้อีก ทั้งนี้ แต่ละอำเภอจะมอบหมายให้ปลัดอำเภอ 1 คนเป็นผู้รับผิดชอบการรายงานผลสำรวจ จะให้แจ้งผลต่อกรมการปกครองก่อนเสนอเรื่องให้ รมว.เกษตรฯพิจารณา

 

ตรวจยิบซากเรือ-เรือพร้อมใช้งาน

แนวทางการสำรวจจะมีการกรอกข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับเรือ และเจ้าของเรือ ไม่ว่าจะเป็นเรือจอดเทียบท่าพร้อมใช้งาน รวมทั้งซากเรือ จากนั้นทีมสำรวจบันทึกถ้อยคำโดยละเอียดตามแบบบันทึกถ้อยคำ พร้อมให้ถ่ายภาพเรือ หรือซากเรือ หัวเรือทั้งซ้าย-ขวา ภาพเต็มลำเรือทั้งซ้าย-ขวาพร้อมรูปเจ้าของเรือ และรูปบ้านเจ้าของเรือ 

 

โดยให้ปรากฏภาพเจ้าของเรือหรือผู้ให้ถ้อยคำในภาพไม่น้อยกว่า 1 ภาพ ขณะเดียวกัน ให้ถ่ายรายละเอียดชื่อเรือ เลขทะเบียนเรือ และให้เจ้าของเรือ ผู้ให้ถ้อยคำ ผู้บันทึกถ้อยคำ ลงลายมือชื่อ และหมายเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อแจ้งข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ด้วย โดยข้อมูลที่ได้จะนำมาใช้เป็นข้อมูลจากในการตรวจสอบสถานะครั้งต่อไปตามช่วงเวลาที่กำหนด

 

เจ้าของมีทั้งธุรกิจประมง-คนดัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรือที่ถูกขึ้นบัญชีรายชื่อโดยเจ้าของเรือต้องให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับเรือ จำนวนเรือ สภาพเรือ การใช้งาน ฯลฯ เพื่อให้รู้สถานะว่าจอดลอยลำอยู่จริง และไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์ด้านการประมงและกิจกรรมอย่างอื่น มีทั้งผู้ประกอบการประมง บริษัทที่ทำธุรกิจด้านการประมงและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง กลุ่มธุรกิจ อดีตรัฐมนตรี บุคคลมีชื่อเสียง อาทิ เรือรุ่งศิริชัย 7 ของ บจ.อาร์เอ็นจี แอนด์ 

 

แอสโซซิเอทส์ เรือ ท.ธารสมบัติ ของนายภูมิ ธาวนพงษ์ เรือ พ.พรานทะเล 11 ของ น.ส.วริยา ธาวนพงษ์ เรือ พรานทะเล 10 ของนายธงชัย ธาวนพงษ์ เจ้าของผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแช่แข็งและสำเร็จรูป แบรนด์พรานทะเล

 

เรือ ส.ฮับ 15 ของ บจ.เมอชานท์ ฮับ (ประเทศไทย) เรือคุณทวี และเรือธนโชค 9 ของนายพรชัย รุจิประภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และอดีตปลัดกระทรวงพลังงาน เรือนาวีโชติ 2 ของ บจ.นาวี ทวีโชติ เรือสุทัศนีย์ ของ บจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ เรือนารายณ์ ของ บจ.นารายณ์ขนส่ง เรือศุภโชค 6 ของ บจ.ศุภโชคการประมง เรือโชควรรณา 2 ของ Mr.Allexsandr Trunov เรือทิพวรรณ 1 ของ บจ.เดิะโคโค่ แบร์ เรือ ส.พรชัยนาวี ของ หจก.ว.สุภาพรกันตัง เรือชัยพฤกษ์ 2 ของ บจ.เจ ดี พี

 

เรือรุ่งรัชนีพร 39 ของ บจ.พีพี บารากูดา ไดรฟวิ่ง เซ็นเตอร์ เรือ ท.ล่องนาวา ของนายสาฮารี่ ท่องเที่ยว เรือสี่ไถ่ชัยนาวี 8 ของ บจ.สมิหลา ดีเวลลอปเมนท์ เรือ ก.โชคดีมงคลชัย 21 ของ บจ.แมน เอ ฟิชเชอร์รี่ เรือ ก.โชคดีมงคล ของ บจ.สงขลามารีนโปรดักส์ เรือ ซี คิงส์ 2 ของ บมจ.สุราษฎร์แคนนิ่ง เรืออินโด มินา 01 ของ บจ.เมธาพัฒน์ เรือ ฮ.ลาภเจริญทรัพย์ 99 ของนายกัมปนาท อมาตยกุลเรือวาสนานาวา 17 ของนางสุภาภรณ์ ราศีวิสุทธิ์ เป็นต้น 

ที่มา https://goo.gl/W40FWr