คอลัมน์: พัฒนาคน พัฒนาชาติ: 'คุ้มครองดูแลสิทธิแรงงาน'

 

 

การแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (IUU) รัฐบาลได้มีการดำเนินการทุกรูปแบบอย่างเข้มข้นภายใต้ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) ซึ่งในส่วนของกระทรวงแรงงาน ได้ขับเคลื่อนมาตรการเร่งด่วนเพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในด้านการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (IUU) หลายประการ อาทิ มาตรการด้านการคุ้มครอง แก้ไขปัญหา และช่วยเหลือ ได้ดำเนินการเปิดจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวในกิจการประมงทะเลปีละ 2 ครั้ง ในปี พ.ศ.2558 ซึ่งขณะนี้ได้เปิดจดทะเบียนครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 2 พฤศจิกายน 2558-วันที่ 30 มกราคม 2559 โดยแรงงานต่างด้าวจะได้รับการผ่อนผันให้อยู่ในราชอาณาจักร และไม่มีการจับกุมและส่งกลับ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ย.58) มีแรงงานต่างด้าวมาจดทะเบียนทั้งสิ้น 6,397 คน (เมียนมา 3,725 คน ลาว 109 คน กัมพูชา 2,563 คน) เจ้าของเรือ/นายจ้าง จำนวนทั้งสิ้น 2,062 ราย

 

ด้านการเปิดจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวในกิจการแปรรูปสัตว์น้ำ 22 จังหวัดที่มีพื้นที่ติดทะเล และกรุงเทพมหานคร (4 จุด ครอบคลุม 4 มุมเมือง) ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน 2558-22 กุมภาพันธ์ 2559  โดยผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชาที่ประสงค์จะทำงานในกิจการแปรรูปสัตว์น้ำรวมถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของแรงงานต่างด้าวที่อายุไม่เกิน 15 ปี อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อรอการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักรและอนุญาตให้ทำงานเป็นเวลา 1 ปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ย.58) มีผลการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว รวมทั้งสิ้น 1,524 คน (เมียนมา 1,093 คน ลาว 41 คน กัมพูชา 390 คน) นายจ้าง 207 ราย

 

ทั้งนี้ ได้อนุญาตแรงงานในเรือประมง และอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำสามารถเปลี่ยนนายจ้างภายในกลุ่มกิจการเดียวกันได้ ไม่จำกัดจำนวนครั้งและจังหวัด และกำลังพิจารณามาตรการคุ้มครองแรงงานเหล่านี้

 

สำหรับมาตรการบังคับใช้กฎหมาย กระทรวงแรงงานมีการดำเนินการอย่างก้าวหน้าในเรื่องการจัดทำคำนิยาม "แรงงานบังคับ" และ "แรงงานขัดหนี้" และพร้อมจัดทำคู่มือเพื่อให้พนักงานและเจ้าหน้าที่พิจารณาวินิจฉัยเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายแรงงานและกฎหมายป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์มีความชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ ได้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงโดย กำหนดอัตราค่าปรับผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ในอัตราค่าปรับสูงสุด เช่น กรณีความผิดฐานจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี การจ้างลูกจ้างที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีทำงานในเรือประมงทะเล

 

ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการออกกฎกระทรวงกำหนดสถานที่ที่ห้ามมิให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงานในโรงงานที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับสัตว์น้ำ และสถานที่แปรรูปสัตว์และกำลังปรับปรุงแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเปรียบเทียบตามพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2551 โดยให้เปรียบเทียบปรับในอัตราโทษสูงสุด ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานมีการประสานงานและบูรณาการทำงานร่วมกับ ศปมผ. และ ILO เพื่อเร่งรัดการฝึกอบรมหลักสูตรป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์การใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับในทะเล ให้แก่เจ้าพนักงาน เพื่อตรวจสอบปัญหาการค้ามนุษย์ และแรงงานบังคับในเรือประมง

 

นอกจากนี้ได้ร่วมกับชุดตรวจปฏิบัติการในงานประมงทะเลในพื้นที่ 22 จังหวัดติดชายฝั่งทะเล ตรวจสถานประกอบกิจการประมงทะเล 1,500 แห่ง มีเรือประมง 1,793 ลำ แรงงานประมง 21,506 คน พบการกระทำความผิด การใช้แรงงานเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จึงร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน จำนวน 11 คดี ในจำนวนนี้ได้ดำเนินคดีนายจ้าง ฐานจ้างแรงงานเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เป็นลูกจ้าง จำนวน 3 คดี ซึ่งเกี่ยวข้องกับความผิดฐานการค้ามนุษย์ โดยการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ จำนวน 1 คดี และ บก.ปคม. จำนวน 2 คดี

จากการดำเนินการอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม เรามาติดตามกันว่า EU จะว่าอย่างไร

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง