แห่จับกุ้งแชบ๊วย ขุมทรัพย์จากมรสุม! มากับคลื่นลม เต็มชายฝั่งเกาะช้าง

 

ชาวประมงชายฝั่งที่เกาะช้าง ต่างรอโอกาสในช่วงมรสุม ส.ค.-พ.ย. คลื่นลมในทะเลแรงพัดเอากุ้งราคาแพงทั้งกุ้งแชบ๊วย กุ้งขาว เข้ามาที่แนวชายฝั่ง นาเรือออกไปจับขายโรงแรมร้านอาหารได้ราคาดี เผยปีนี้กุ้งมาเร็ว อีกทั้งมีจานวนมาก...

เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 22 ส.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวประมงพื้นบ้านคลองสนหมู่ 3 ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด ได้นาเรือหางยาวกว่า 10 ลา ออกจับกุ้งแชบ๊วยและกุ้งขาว ที่บริเวณปากอ่าวคลองสน ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง หลังพบมีกุ้งแชบ๊วยและกุ้งขาว เป็นฝูงใหญ่อยู่ในทะเลบริเวณดังกล่าว

 

ทั้งนี้ ชาวประมงพื้นบ้านจะนาอวนตาถี่ขนาด 4 เซนติเมตรใส่เรือหางยาว ไปวางอวนในทะเลบริเวณที่เห็นฝูงกุ้งมารวมกลุ่มกันบริเวณผิวน้า โดยมีทั้งวางในช่วงกลางคืนและในช่วงเช้า เมื่อดึงขึ้นจากน้าจะมีกุ้งแชบ๊วย และกุ้งขาวติดตาอวนขึ้นมาจานวนมาก ก่อนจะนาอวนขึ้นเรือวิ่งเข้าฝั่ง ซึ่งพบว่าในช่วงนี้ชาวประมงพื้นบ้าน สามารถจับกุ้งได้ลาละประมาณ 30-100 กิโลกรัม เป็นกุ้งแชบ๊วยขนาดใหญ่กับกุ้งขาว ซึ่งราคาค่อนข้างสูง นอกจากนี้ยังมีปลาหลายชนิดติดอวนมาด้วย

 

นายวรวัฒน์ สนนิวาสสรดี อายุ 50 ปี ชาวประมงพื้นบ้านคลองสน กล่าวว่า ช่วงประมาณปลายเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน ของทุกปี จะมีกุ้งทะเล เช่น กุ้งขาวและกุ้งแชบ๊วย ว่ายมากับกระแสคลื่นมาที่บริเวณอ่าวคลองสนและย่านหาดทรายขาวของเกาะช้างจานวนมาก แต่ปีนี้พบว่าฝูงกุ้งมาเร็วกว่าทุกปี ตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ช่วงมรสุมเป็นต้นมา ยิ่งช่วงที่มีคลื่นลมแรงและน้าในทะเลขุ่น จะพบฝูงกุ้งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยชาวประมงพื้นบ้านที่มีเรือไฟเบอร์ขนาดกว้าง 1 เมตร ยาวประมาณ 3-4 เมตร ติดตั้งเครื่องหางยาว จะนาอวน ออกไปวางในทะเลเพื่อจับกุ้ง ซึ่งวันนี้ตนได้กุ้งแชบ๊วยและกุ้งขาวประมาณ 40-50 กิโลกรัม มีพ่อค้าแม่ค้าและเจ้าของโรงแรมรีสอร์ตร้านอาหารมารับซื้อถึงบ้าน ในราคากิโลกรัมละ 250-300 บาท

 

จากการสอบถาม ทราบว่า ในช่วงนี้ชาวประมงพื้นบ้านคลองสนที่มีอุปกรณ์ในการจับกุ้ง จะมีรายได้เฉลี่ยไม่ต่ากว่า 1,000-2,000 บาทต่อวันต่อครัวเรือน ขึ้นอยู่กับจานวนอวนที่นาไปวาง เมื่อบ้านไหนจับกุ้งได้มาก เพื่อนบ้านข้างเคียงก็จะมาช่วยกันแกะกุ้งออกจากอวน ซึ่งทุกปีชาวบ้านคลองสน อ.เกาะช้าง ได้อาศัยโอกาสช่วงที่มีมรสุมคลื่นลมในทะเลแรง เปลี่ยนจากการหาปลานอกชายฝั่ง มาเป็นการวางอวนจับกุ้งแชบ๊วยและกุ้งขาวบริเวณแนวชายฝั่งแทน เป็นโอกาสสร้างรายได้หาเลี้ยงครอบครัวของคนในชุมชนได้เป็นอย่างดี.

 

 

แหล่งที่มา http://www.thairath.co.th/content/698109